เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2563 โบลิเวียได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกสภานิติบัญญัติ 166 คน สำหรับวาระปี 2563 - 2568 และเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติโบลิเวียได้ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ผลปรากฏว่า นาย Luis Arce Catacora จากพรรค MAS ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายและเป็นพรรคของนาย Evo Morales อดีตประธานาธิบดีโบลิเวีย ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 55.1 และนาย Carlos de Mesa Gisbert จากพรรค CC ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 ที่ร้อยละ 28.83 โดยมีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้ร้อยละ 100 (6.48 ล้านคน) เนื่องจากกฎหมายโบลิเวียกำหนดให้ประชาชนทุกคนที่มีสิทธิต้องออกมาเลือกตั้ง ทั้งนี้ นาย Arce ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนาย Morales และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินในสมัยนาย Morales มีกำหนดจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 และได้ประกาศว่า มาตรการแรกของรัฐบาลคือการจ่ายเงินโบนัสคนละ 1,000 โบลิเวียโนส (ประมาณ 145 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19

นาย Luis Arce Catacora จากพรรค MAS อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการเงินได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของโบลิเวียในครั้งล่าสุด // ที่มาของรูป : BrujulaDigital

นาย Evo Morales อดีตประธานาธิบดีโบลิเวีย จากพรรค MAS ที่ปัจจุบันลี้ภัยทางการเมืองอยู่ที่อาร์เจนตินา เพราะถูกประชาชนประท้วงจากความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2562 // ที่มาของรูป : Britannica

      ชัยชนะอย่างท่วมท้นของนาย Catacora ในการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงถึงการกลับสู่อำนาจของพรรค MAS ภายหลังจากที่นาย Morales ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 เนื่องจากประชาชนประท้วงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2562 จากความไม่โปร่งใสในการนับคะแนนเสียง และส่งผลให้นาย Morales ต้องลี้ภัยทางการเมืองไปยังเม็กซิโกและปัจจุบันอยู่ที่อาร์เจนตินา โดยภายหลังจากผลการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ นาย Morales ได้แสดงความประสงค์จะเดินทางกลับโบลิเวียในโอกาสแรก นอกจากนี้ ชัยชนะของนาย Catacora แสดงให้เห็นว่า กลุ่มอนุรักษ์นิยมซึ่งมุ่งเสนอนโยบายแบบใหม่แทนที่นโยบายประชานิยมของนาย Morales ไม่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรากหญ้าและชนพื้นเมืองมากนัก

********************

กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้

พฤศจิกายน 2563

ที่มาของรูปหน้าปก : REUTERS/David Mercado