เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2562 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ดังเดิมที่ร้อยละ 2.25 - 2.5 แม้จะมีกระแสกดดันจากฝ่ายบริหารให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 

            ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC (Federal Open Market Committee) มีมติ 9 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมเพื่อรักษาเสถียรภาพ ทางเศรษฐกิจและเพิ่มการจ้างงาน โดยให้เหตุผลว่า อัตราการจ้างงานโดยรวมของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง มีอัตราการว่างงานในระดับต่ำที่ร้อยละ 3.6 การใช้จ่ายภาคครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าถึงแม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะยังไม่ขยายตัวมากนัก นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ ที่ไม่รวมปัจจัยราคาอาหารและพลังงาน ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 2 อย่างไรก็ดี นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ จะประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งถัดไป

            การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ สวนทางกับท่าทีของนาย Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่พยายามสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยก่อนหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย นาย Trump  ได้แสดงความไม่พอใจต่อการทำงานของนาย Powell และเปรียบเทียบการดำเนินนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ของคณะกรรมการฯ ชุดปัจจุบันกับก่อนหน้าที่มักกำหนดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี นาย Trump ปฏิเสธกระแสข่าวลือที่จะปลดนาย Powell ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ แต่ก็กล่าวว่าตนมีอำนาจในการทำเช่นนั้น ด้านนาย Powell ยังคงยืนยันความเป็นกลางของ    ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐบาล และยืนยันความตั้งใจที่จะดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 4 ปี ทั้งนี้ นาย Powell ได้รับการเสนอชื่อจากนาย Trump ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561

             ก่อนหน้านี้ ผู้สันทัดกรณีต่างคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2561 เนื่องจากต้องการพยุงเศรษฐกิจภายในของสหรัฐฯ ให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ ลดทอนความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมไปถึงการตั้งกำแพงภาษีกับเม็กซิโกและสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง 

             ทั้งนี้ จากการหยั่งเสียงภายในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี ค.ศ. 2020 ลงให้อยู่ที่ร้อยละ 2.1 และอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในปี ค.ศ. 2021 ให้ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.5 

* * * * *

กลุ่มงานโครงการตามยุทธศาสตร์

กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้

กรกฎาคม 2562

ที่มา:

https://www.federalreserve.gov/newsevents/pressreleases/monetary20190619a.htm?mod=article_inline&utm_source
=npr_newsletter&utm_medium=email&utm_content=20190701&utm
_campaign=money&utm_term=nprnews&utm_id=15638468

https://www.cnbc.com/2019/06/23/trump-says-he-never-threatened-to-demote-federal-reserve-chairman-jerome-powell.html

https://www.cnbc.com/2019/06/19/fed-decision-fed-leaves-rates-unchanged.html

https://www.cnbc.com/2019/06/24/feds-kaplan-its-too-early-to-decide-interest-rate-cut.html

https://www.cnbc.com/2019/06/25/what-to-expect-when-youre-expecting-a-rate-cut.html

https://www.cnbc.com/2019/06/28/us-china-trade-war-may-become-a-currency-war-within-two-years.html?recirc=taboolainternal

https://www.ft.com/content/16a73778-971a-11e9-9573-ee5cbb98ed36