สหรัฐฯ ครองตำแหน่งประเทศที่มีงบประมาณทางการทหารมากเป็นอันดับที่หนึ่งในปี 2018

        เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2562 สถาบันวิจัยเพื่อสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) ได้เผยแพร่รายงานงบประมาณทางการทหารทั่วโลกประจำปี ค.ศ. 2018 โดยรายงานเปิดเผยว่า งบประมาณด้านการทหารของประเทศต่าง ๆ ในปี ค.ศ. 2018 มีจำนวนสูงถึง 1.82 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 2.6 จากปีก่อนหน้าและทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 30 ปี

         สหรัฐอเมริกายังคงครองตำแหน่งเป็นประเทศที่มีงบประมาณทางการทหารมากเป็นอันดับหนึ่ง (ร้อยละ 35.6) โดยมีงบประมาณทางการทหารสูงถึง 6.49 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 4.6 ในรอบ 7 ปี อันเป็นผลมาจากการดำเนินโครงการวิจัยและการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในกองทัพสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน สำหรับประเทศที่มีงบประมาณทางการทหารมากเป็นอันดับสอง ได้แก่ จีน ที่มีงบประมาณทางการทหารสูงถึง 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13.7 ของงบประมาณทางการทหารทั่วโลก โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากปี ค.ศ. 2017 ทั้งนี้ งบประมาณทางการทหารของทั้งสองประเทศรวมกันมีสัดส่วนมากเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของงบประมาณทางการทหารทั่วโลก รองลงมาคือ ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย ฝรั่งเศส รัสเซียและสหราชอาณาจักร

         การเพิ่มขึ้นของงบประมาณทางการทหารของสหรัฐฯ ดังกล่าว เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การทหารแห่งชาติฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ที่ต้องการฟื้นฟูความได้เปรียบในการแข่งขันทางการทหาร และคานการท้าทายอำนาจจากจีนและรัสเซีย ซึ่งตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว สหรัฐฯ จำเป็นต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการทหารและบทบาทของสหรัฐฯ ในเวทีระหว่างประเทศ สร้างพันธมิตรใหม่ ตลอดจนใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ จึงต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนากองทัพในด้านต่าง ๆ อาทิ หน่วยปฏิบัติการและการบำรุงรักษา ด้านการพัฒนาบุคลากร กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และด้านการวิจัยพัฒนา

          สำหรับพัฒนาการด้านงบประมาณทหารในภูมิภาคยุโรปตะวันออกและยุโรปกลางพบว่า งบประมาณทางการทหารของรัสเซียลดลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยในปี ค.ศ. 2018 รัสเซียมีงบประมาณทางการทหารจำนวน 6.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 3.5 อย่างไรก็ดี งบประมาณทางการทหารของบางประเทศในภูมิภาคกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้น อาทิ โปแลนด์ ยูเครน บัลแกเรีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย โรมาเนีย นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) บางประเทศ อาทิ เยอรมนี สหราชอาณาจักร ยังไม่สามารถเพิ่มงบประมาณทางการทหารในปี ค.ศ. 2018 ให้เป็นไปตามกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 2 ของ GDP ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องได้ โดยเยอรมนีเพิ่มงบประมาณทางการทหารขึ้นร้อยละ 1.2 และสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8

          ในส่วนของประเทศในภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย มีงบประมาณทางการทหารในปี ค.ศ. 2018 รวมกันกว่า 5.07 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 28 ของทั้งโลก ซึ่ง ดร. Nan Tian นักวิจัยสถาบัน SIPRI วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ความตึงเครียดและการแข่งขันระหว่างชาติมหาอำนาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้งบประมาณด้านการทหารของภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ อินเดียและปากีสถานได้เพิ่มงบประมาณทางการทหารของตนจากปีก่อนหน้าที่ร้อยละ 3.1 และ 11 ตามลำดับ ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียลดงบประมาณทางการทหารของตนลงร้อยละ 6.5 จากปัญหาหนี้สาธารณะและการใช้จ่ายงบประมาณเกินตัว

         อนึ่ง ในส่วนของภูมิภาคลาตินอเมริกา งบประมาณทางการทหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 และภูมิภาคแอฟริกาลดลงร้อยละ 8.4

***************************************

ที่มา :    - https://edition.cnn.com/2019/04/29/world/military-spending-sipri-report-intl/index.html

            - https://www.sipri.org/media/press-release/2019/world-military-expenditure-grows-18-trillion-2018

            - https://dod.defense.gov/News/Article/Article/1419045/dod-official-national-defense-strategy-will- rebuild-dominance-enhance-deterrence/