สรุปสาระสำคัญจากบทความเรื่อง “North America driving global oil and gas pipeline boom”

สรุปสาระสำคัญจากบทความเรื่อง “North America driving global oil and gas pipeline boom”

วันที่นำเข้าข้อมูล 30 เม.ย. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 931 view

        Global Fossil Infrastructure Tracker ซึ่งเป็นโครงการศึกษาแนวโน้มการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี ได้รายงานผลการสำรวจเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2562 โดยระบุว่า (1) มีโครงการก่อสร้าง ท่อขนส่งพลังงานของโลกเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าในเวลาไม่ถึงสองทศวรรษ (นับตั้งแต่ ค.ศ. 1996) คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นอัตราส่วนโครงการท่อก๊าซธรรมชาติ 4 โครงการต่อน้ำมัน 1 โครงการ ทั้งนี้ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั้งในปัจจุบันและอนาคตของสหรัฐฯ และแคนาดา มีมูลค่ารวมเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (2) มีการพัฒนาท่อขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกว่า 180,000 กม. โดยร้อยละ 34.4 หรือ 62,000 กม. อยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ และร้อยละ 51.5 ของโครงการพัฒนาท่อขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ (3) บริษัทด้านพลังงานเชื้อเพลิงหลายบริษัทพยายามเร่งรัดการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของตนให้แล้วเสร็จเพื่อให้ประเทศต่าง ๆ และกลุ่มนักลงทุนใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติต่อไปได้อีกหลายทศวรรษ ถึงแม้กระแสเรียกร้องให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะทวีความเข้มข้นขึ้นก็ตาม โดยเมื่อเดือน ต.ค. 2561 คณะผู้เชี่ยวชาญด้านเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ UN กล่าวว่าจะต้องลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (รวมถึงน้ำมันลงร้อยละ 87) ภายในปี ค.ศ. 2050 เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการลดอุณหภูมิให้ได้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส ตามข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

        อนึ่ง นักลงทุนด้านพลังงานเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อกฎระเบียบ ความเห็นของสาธารณชนที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ราคาน้ำมัน และการอุดหนุน ทั้งนี้ รายงานของ Global Witness ระบุว่ามีบริษัทน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่จะเดินหน้าลงทุนการสำรวจแหล่งพลังงานใหม่เป็นมูลค่า 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะหยุดชะงักหรือล่าช้า หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในสหรัฐฯ และนโยบายพลังงานหลังการเลือกตั้ง ปธน. ในปี 2563