สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสร่วมกับ Business Oregon และ Prosper Portland นำคณะนักธุรกิจสาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อมจากมลรัฐออริกอนเข้าร่วม ASEAN Sustainable Energy Week

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสร่วมกับ Business Oregon และ Prosper Portland นำคณะนักธุรกิจสาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อมจากมลรัฐออริกอนเข้าร่วม ASEAN Sustainable Energy Week

วันที่นำเข้าข้อมูล 11 มิ.ย. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 658 view

          สถานกงสุลใหญ่  ณ นครลอสแอนเจลิสร่วมกับ Business Oregon และ Prosper Portland นำคณะนักธุรกิจสาขาพลังงานและสิ่งแวดล้อมจากมลรัฐออริกอนเข้าร่วม ASEAN Sustainable Energy Week จัดโดยกระทรวงพลังงานระหว่างวันที่ ๖-๙ มิ.ย. ๒๕๖๑ โดยได้จัดให้พบหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องด้วย

          ในโอกาสการหารือระหว่างอาหารกลางวันเมื่อวันที่ ๔ มิ.ย. ๒๕๖๑ กับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (BOI) โดยมีนายศรัณย์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศและกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิสเข้าร่วมด้วย สรุปสาระสำคัญดังนี้

          รัฐมนตรีฯ กอบศักดิ์ฯ ยินดีที่บริษัทจากมลรัฐออริกอน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสีเขียวและพลังงานสะอาด ให้ความสนใจมาลงทุนค้าขายในประเทศไทย และเล่าถึงโครงการสำคัญของไทยในช่วง ๘ เดือนก่อนการเลือกตั้ง ได้แก่ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งประกอบด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เช่น ท่าเรือแหลมฉบังและสนามบินอู่ตะเภา การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบิน ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และอู่ตะเภา ให้เหลือเพียง ๔๕ นาที - ๑ ชั่วโมง และการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ เป็นต้น โดยโครงการทั้งหมดมีมูลค่าการลงทุนไม่ต่ำกว่า ๒๐ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

          รัฐมนตรีฯ กอบศักดิ์ฯ เข้าใจดีว่าขณะนี้ สหรัฐฯ มีนโยบายส่งเสริมการค้าการลงทุนและการสร้างงานในประเทศ (America First) แต่ก็ไม่ควรมองข้ามเอเชีย เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก โดยจีนมีประชากร ๑.๔ พันล้านคน อินเดียมีประชากร ๑.๒ พันล้านคน และอาเซียนมีประชากร ๘๐๐ ล้านคน แต่หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า การลงทุนในประเทศไทยนั้นเหมาะสมที่สุด เนื่องจากไทยเป็นประเทศรายได้ระดับกลางที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีตลาดเปิด ไม่มีปัญหาการลอกเลียนเทคโนโลยีและดูแลนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ไทยยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีเส้นทางคมนาคมทางบกเชื่อมต่อไปถึงจีนและอินเดีย การลงทุนตั้งโรงงานในไทย จึงสามารถเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค และเป็นฐาน (base) และประตู (gateway) ไปสู่ตลาดในประเทศเพื่อนบ้านของไทย จีนและอินเดียได้อีกด้วย

          เลขาธิการ BOI แจ้งว่า เทคโนโลยีที่ไทยกำลังให้ความสนใจ ได้แก่ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า สถานีชาร์จไฟฟ้า และการกำจัด/รีไซเคิลขยะ โดยนักลงทุนต่างชาติจะได้รับผลประโยชน์และสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ อัตราภาษีคงที่ ซึ่งต่ำกว่าที่สหรัฐฯ ถึงร้อยละ ๑๗

          นักธุรกิจจากมลรัฐออริกอนขอบคุณฝ่ายไทยที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าการลงทุนให้เป็นอย่างดี และแนะนำเทคโนโลยีของแต่ละบริษัท ตั้งแต่การกักเก็บพลังงาน ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า การจัดการ/รีไซเคิลไม้และโลหะ ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านน้ำ โดยหวังว่าในการเข้าร่วมออกบูธในงาน ASEAN Sustainable Energy Week ๒๐๑๘ ในปีนี้ จะได้บริษัทไทยมาเป็นคู่ค้าและพันธมิตรด้านการลงทุนในประเทศไทยต่อไป

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ