เรื่องเล่าจากเยาวชนชาวไทยอเมริกันถึงกิจกรรมอาสาสมัครในประเทศไทย

เรื่องเล่าจากเยาวชนชาวไทยอเมริกันถึงกิจกรรมอาสาสมัครในประเทศไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 25 ก.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 14 ต.ค. 2565

| 806 view

             เมื่อเอ่ยถึงประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และวัฒนธรรม หลายท่านก็คงจะนึกถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่ประกอบด้วยประชากรจากทั่วทุกโลก ทั้งจากยุโรป ลาตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย ซึ่งได้ผสมกลมกลืนและหลอมรวมจนกลายเป็นวัฒนธรรมอเมริกัน และสำหรับชาวอเมริกันเชื้อสายไทยหรือชาวไทยอเมริกันซึ่งได้อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ประมาณ 250,000 คน และมีบทบาทสำคัญในสังคมและวัฒนธรรมอเมริกัน เช่น วัฒนธรรมด้านอาหารผ่านร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสหรัฐฯ รวมทั้งชาวไทยอเมริกันหลายคนได้มีบทบาทและชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ ของสหรัฐฯ อาทิ นางลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ และนายไทเกอร์  วูดส์ นักกอล์ฟที่มีชื่อเสียงของสหรัฐฯ 

            และในโอกาสที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้จัดโครงการเพื่อนมิตรไทยอเมริกัน (Thai American Friendship Project) โดยนำเยาวชนชาวไทยที่เกิดและเติบโตในสหรัฐฯ เข้าร่วมทำกิจกรรมในประเทศไทยเป็นเวลา 2 เดือน  ผู้เขียนได้พบกับคุณแทมมินี่  พานิชย์ (แทมมี่) ซึ่งเป็นหนึ่งในเยาวชนไทยที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยได้สอบถามถึงที่มาของโครงการฯ และกิจกรรมในประเทศไทยและวิถีชีวิตของชาวไทยในสหรัฐฯ   

 
แนะนำตัวเองให้รู้จัก
            ดิฉันชื่อแทมมี่ค่ะ เป็นชาวไทยที่เกิดและเติบโตในสหรัฐฯ ค่ะ โดยคุณพ่อและคุณแม่ของแทมมี่เป็นชาวไทยทั้งคู่ เมื่อแทมมี่อายุได้ประมาณ 5 ขวบได้มีโอกาสกลับมาใช้ชีวิตในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยแทมมี่ได้กลับมาเรียนที่โรงเรียนทิวไผ่งามในระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ค่ะ การกลับมาใช้ชีวิตในเมืองไทยในช่วงนั้น ช่วยให้แทมมี่สามารถพูด เขียน และอ่านภาษาไทยได้ รวมถึงได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวไทยอีกด้วย  หลังจากนั้นจึงได้กลับมาเรียนและใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐฯ อีกครั้ง แทมมี่จบการศึกษาสาขาธุรกิจ มหาวิทยาลัย Northwood มลรัฐมิชิแกน ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนักกอล์ฟค่ะ

รู้จักโครงการเพื่อนมิตรไทยอเมริกันได้อย่างไร
         
       ในช่วงที่แทมมี่เรียนอยู่ที่มลรัฐมิชิแกน แทมมี่ได้ทำงานร่วมกับสมาคมไทย – อเมริกันแห่งรัฐมิชิแกน (Thai – American 
Association of Michigan) โดยนายกสมาคมฯ ได้แนะนำโครงการเพื่อนมิตรไทยอเมริกันให้รู้จัก ซึ่งเป็นโครงการที่ให้กลุ่มเยาวชนคนไทยอเมริกันรุ่นที่ 2 (2nd Generation) ที่เติบโตในสหรัฐฯ มาทำงานอาสาสมัครและเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทยในแง่มุมต่าง ๆ เป็นระยะเวลา 2 เดือน รวมถึงได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ  ของประเทศไทย นอกจากนี้ โครงการมีความน่าสนใจอย่างมากค่ะ เพราะแทมมี่จะได้มีโอกาสใช้ชีวิตในประเทศไทยด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก  และได้ทำกิจกรรมอาสาสมัครและใช้ชีวิตในต่างจังหวัด ซึ่งการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวจะเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจค่ะ แทมมี่จึงได้ตัดสินใจที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการ

            โดยในปีนี้เป็นปีแรกของการดำเนินโครงการ และมีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 7 คนค่ะ จากมลรัฐแคลิฟอร์เนียและมลรัฐออเรกอน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่โครงการนี้ได้สร้างเครือข่ายเยาวชนชาวไทยในสหรัฐฯ ให้รู้จักกันค่ะ


มาทำกิจกรรมอาสาสมัครประเภทใด
            แทมมี่จะมาสอนภาษาอังกฤษให้กับนักศึกษาชาวไทยที่ ม. อุบลราชธานีเป็นระยะเวลา 2 เดือน ส่วนผู้เข้าร่วมโครงการคนอื่น จะได้รับมอบหมายให้สอนภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน ซึ่งกระจายไปทั่วภูมิภาคของไทย อาทิ ม. สงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา ม. ขอนแก่น ม. รังสิต และ รร. ปรินส์รอแยลลส์วิทยาลัย จ. เชียงราย โดยโครงการฯ จะเป็นคนคัดเลือกสถานที่ต่าง ๆ ให้ค่ะ นอกจากนี้ ในช่วงที่แทมมี่ได้เดินทางไป จ. อุบลราชธานีนั้น จะมีงานเทศกาลแห่เทียนพรรษา ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่มีชื่อเสียงของจังหวัด จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เข้าร่วมงานเทศกาลดังกล่าว และแทมมี่เคยได้ยินมาว่าการใช้ชีวิตในต่างจังหวัดจะมีความแตกต่างกับในกรุงเทพฯ ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นหนึ่งค่ะ

กลับมาไทยในครั้งนี้ได้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง  
            เมื่อแทมมี่กลับมาถึงไทยในวันที่ 28 มิถุนายน 2560 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำแทมมี่และเพื่อน ๆ ไปเข้าเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น วัดพระแก้ว พระบรมมหาราชวัง วัดโพธิ์ ตลาดน้ำอัมพวา และพระปฐมเจดีย์ ซึ่งนับเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของประเทศไทย  นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสเยือนกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้สัมภาษณ์รายการวิทยุสราญรมย์เกี่ยวกับการดำเนินโครงการ และได้เข้าเยี่ยมคณะผู้บริหารของกระทรวงการต่างประเทศอีกด้วยค่ะ


            

อยากให้เล่าถึงความแตกต่างการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ และไทย
            การใช้ชีวิตในไทยมีความสะดวกสบายมากค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับในสหรัฐฯ โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางค่ะ การเดินทางในสหรัฐฯ มีระยะทางที่ค่อนข้างไกลมากค่ะ และยังต้องมีรถส่วนตัวเพื่อที่จะเดินทางไปที่ต่าง ๆ อีกด้วย แต่ในไทยสามารถใช้ระบบขนส่งมวลชนได้อย่างสะดวก อาทิ รถเมล์ รถไฟฟ้า รถตู้ หรือ เรือโดยสาร นอกจากนี้ คนไทยมีความเป็นมิตรอย่างมาก ชอบยิ้มทักทายให้ตลอด แทมมี่จึงชอบและหลงรักประเทศไทยเป็นอย่างมากค่ะ
            ถึงแม้ว่าแทมมี่จะเติบโตและใช้ชีวิตในสังคมอเมริกัน  แต่แทมมี่ก็ยังมีความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมและชาวไทยด้วยค่ะ เนื่องจากมีกิจกรรมของกลุ่มชาวไทยที่อาศัยทั้งในมลรัฐแคลิฟอร์เนียและมลรัฐมิชิแกนอยู่เป็นประจำ โดยมีการจัดงานเทศกาลสำคัญต่าง ๆ อาทิ งานลอยกระทง งานสงกรานต์ เทศกาลงานวัด หรืองานตลาดนัด อย่างไรก็ดี ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียจะมีการจัดงานเป็นประจำมากกว่าในมลรัฐมิชิแกน เนื่องด้วยเป็นรัฐที่ชาวไทยอาศัยอยู่จำนวนมากที่สุดในสหรัฐฯ จำนวนประมาณกว่า 1 แสนคน นอกจากนี้ ยังมีการตั้งไทยทาวน์ (Thai Town) ซึ่งมีทั้งชุมชนชาวไทย ร้านอาหารไทย ตลาดสินค้าไทย ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของนครลอสแอนเจลิสอีกด้วยค่ะ  
           
                                 

           ในท้ายที่สุดนี้ คุณแทมมี่ได้กล่าวเชิญชวนเยาวชนชาวไทยที่อาศัยหรือเติบโตในสหรัฐฯ เข้าร่วมโครงการในปีถัดไป ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมสร้างเครือข่ายชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ให้รู้จักซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้นแล้ว  ยังช่วยสร้างความรู้สึกที่ผูกพันและความตระหนักรู้ในความเป็นไทยให้กับเยาวชนไทยในสหรัฐฯ นอกจากนี้ กลุ่มเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ยังได้มีส่วนร่วมในการสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนชาวไทย ซึ่งช่วยส่งเสริมพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนชาวไทยได้เรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาอีกด้วย 
                                                **********
                                                                                          สัมภาษณ์โดย นายวนรัตน์  จันทร์เพชร
                                                                         เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยกลุ่มงานโครงการตามยุทธศาสตร์
                                                                                                            กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้