วันที่นำเข้าข้อมูล 9 มี.ค. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
เรือดําน้ำเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความก้าวหน้าของกองทัพเรือแต่ละประเทศ ถือว่าเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพในสงครามทางทะเล (Naval Warfare) และสงครามนอกแบบ (Unconventional Warfare) จึงเป็นที่นิยมของกองทัพเรือทั่วโลก ที่ผ่านมา เกิดสถานการณ์แข่งขันการนําเรือดำน้ำเข้าประจําการ โดยประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อเรือดำน้ำ การพัฒนาโครงการต่อเรือดำน้ำในประเทศ การพัฒนาศักยภาพฐานทัพเรือเพื่อรองรับการจอด/ซ่อมเรือดำน้ำ การปรับปรุงและขยายกองเรือดำน้ำ และการผลิตส่งออกเรือดำน้ำ ที่มีมากขึ้น กลายเป็นปรากฏการณ์ที่คล้ายคลึงกับการแข่งสะสมอาวุธ (Arms Race) ในรูปแบบหนึ่ง
กราฟแสดงจำนวนกองเรือดำน้ำของแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชียประจำปี 2563 // ที่มา : H I SUTTON
ประเทศมหาอำนาจทางเรือดำน้ำในภูมิภาคเอเชียประกอบไปด้วย จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย รวมถึงปากีสถาน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสิงคโปร์ ที่มีเรือดำน้ำที่ทันสมัย และมีศักยภาพในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเรือดำน้ำ ขณะเดียวกัน ไต้หวัน และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย เช่น ไทย เมียนมา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เริ่มให้ความสนใจจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจําการ เห็นได้จากการที่เมียนมามีเรือดำน้ำออกประจำการลำแรกในเดือนธันวาคม 2562 และมีแผนจะซื้อเรือดำน้ำจากรัสเซียอีก 2 ลำ ส่วนบังคลาเทศได้จัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนไปจำนวน 2 ลำ เวียดนามกับไต้หวันมีโครงการที่จะพัฒนาเรือดำน้ำขึ้นมาเอง เพื่อทดแทนเรือดำน้ำรุ่นเก่าของตน และฟิลิปปินส์มีแผนจะสร้างเรือดำน้ำลำแรกของตน โดยอิงต้นแบบเรือดำน้ำของฝรั่งเศส
เรือดำน้ำรุ่น Yuan - Class ของกองทัพกองเรือปลดปล่อยประชาชนจีน ขณะออกปฏิบัติการทางทะเล // ที่มารูป : https://www.bangkokpost.com/thailand/politics/1024229/navy-submits-b36bn-plan-to-buy-subs
สำหรับประเทศไทย กองทัพเรือกำลังอยู่ในกระบวนการต่อเรือดำน้ำพลังงานดีเซล-ไฟฟ้า S26T รุ่น Yuan Class จากจีน 1 ลำและมีแผนสั่งซื้อเพิ่มอีก 1 ลำ อนึ่ง ไทยเคยมีเรือดําน้ำประจําการ 4 ลำ ที่สั่งซื้อจากญี่ปุ่นเมื่อปี 2481 แต่ได้ปลดประจําการกองเรือดำน้ำดังกล่าวเมื่อปี 2494
********************
กลุ่มงานโครงการตามยุทธศาสตร์
กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้
มีนาคม 2563
รูปภาพประกอบ
วันทำการ: จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)