เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ได้เกิดการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลคิวบาครั้งใหญ่ในกรุงฮาวานาและกว่า ๔๐ เมืองทั่วประเทศ โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษที่ประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องเสรีภาพและการล้มเลิกระบบเผด็จการ รวมทั้งแสดงความไม่พอใจการบริหารประเทศของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอย การขาดแคลนอาหาร ยาและไฟฟ้าโดยเฉพาะในช่วงโควิด-๑๙ ซึ่งคิวบามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่เกิดเหตุการณ์ประท้วง คิวบามีผู้ติดเชื้อประจำวันเพิ่มสูงถึง ๖,๗๕๐ รายและเสียชีวิต ๓๑ ราย ทั้งนี้ รัฐบาลได้เข้าควบคุมสถานการณ์โดยจับกุมผู้ประท้วงกว่า ๑๔๐ คน และมีรายงานผู้เสียชีวิต ๑ ราย ซึ่งประธานาธิบดีคิวบาได้แถลงว่าสหรัฐฯ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการประท้วงครั้งนี้ ซึ่งได้ซ้ำเติมให้สภาวะความเป็นอยู่ของประชาชนให้ยากลำบากขึ้น นอกเหนือจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ มีต่อคิวบา

    สำหรับท่าทีของฝ่ายต่างๆ จากเหตุการณ์ประท้วงดังกล่าว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลคิวบาเคารพความต้องการของประชาชน และประธานาธิบดีบราซิลได้มีข้อความใน Twitter สนับสนุนผู้ประท้วงในคิวบา ส่วนประธานาธิบดีเม็กซิโกได้สนับสนุนให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการเจรจาและย้ำข้อเสนอให้ยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อคิวบา โดยเม็กซิโกยินดีจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบริจาควัคซีนต้านโควิด-๑๙ แก่คิวบา ขณะที่องค์การสหประชาชาติได้ย้ำให้รัฐบาลคิวบาเคารพต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการรวมตัวของประชาชน ตลอดจนเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมจากการประท้วงและแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี

********************

ที่มาของรูปหน้าปก : REUTERS/Alexandre Meneghini/File Photo

กองลาตินอเมริกา

กรกฎาคม ๒๕๖๔