วันที่นำเข้าข้อมูล 5 ก.พ. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565
ที่มาภาพ : Agence France-Presse — Getty Images
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2564 การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ UNCTAD เสนอรายงานทิศทาง การลงทุนโลก ซึ่งระบุว่า ในปี 2563 จีนรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก แซงหน้าสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดย FDI ในจีนมีมูลค่า 163 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 4 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมสำคัญ อาทิ เทคโนโลยีชั้นสูง การควบรวมกิจการทางธุรกิจ (Merger & Acquisition: M&A) ในขณะที่ FDI สู่สหรัฐฯ ลดลงถึงร้อยละ 49 อยู่ที่ 134 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สถิตินี้สะท้อนว่าจีนยังคงมีพื้นฐานที่เป็นจุดแข็งในสายตาต่างชาติ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างอิทธิพลของจีนต่อเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น
สาเหตุสำคัญที่สหรัฐฯ มีการลงทุนจากต่างชาติลดลงเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 รวมถึงการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลนายโดนัล ทรัมป์ในสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน อย่างไรก็ดี UNCTAD รายงานว่า ในภาพรวม FDI ลดลงในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรป ไม่เพียงแต่ในสหรัฐฯ เท่านั้น
การที่จีนมีมาตรการที่เข้มงวดและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่สร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากต่างชาติในปี 2563 โดยปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ความคุ้มค่าของขนาดการผลิต (economy of scale) และการขยายตัวของผู้บริโภคภายในจีน ส่งผลให้ FDI สู่จีนเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี แม้ว่าผู้ลงทุนจากต่างชาติจะมีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับนโยบายของจีนต่อการลงทุนจากต่างชาติ เช่น แนวทางที่เข้มงวดของจีนต่อการถือครองกรรมสิทธิ์ของต่างชาติ และความไม่ชัดเจนในการบังคับใช้แนวทางเหล่านี้ ในขณะที่ FDI ของสหรัฐฯ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560
สำหรับปี 2564 นี้ UNCTAD ยังคงคาดการณ์ว่า FDI ทั่วโลกจะยังคงซบเซา โดยปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนจากต่างชาติในประเทศต่าง ๆ ได้แก่ การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ความรวดเร็วและความสำเร็จในการแจกจ่ายวัคซีนแก่ประชาชน สภาพพื้นฐานเศรษฐกิจมหภาค และนโยบายส่งเสริมการลงทุน
แหล่งที่มาข่าว :
* * * * * * * * * * * * * * * * *
กลุ่มงานโครงการตามยุทธศาสตร์
26 ม.ค. 2564
รูปภาพประกอบ
วันทำการ: จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)