ประสบการณ์ทางวิญญาณในอพาร์ทเมนท์ของนักการทูต ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู

ประสบการณ์ทางวิญญาณในอพาร์ทเมนท์ของนักการทูต ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู

วันที่นำเข้าข้อมูล 20 ม.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 11,808 view

Head_Copy_ผีเปรู_1

      ถ้าคุณต้องย้ายไปใช้ชีวิตต่างประเทศ 4 ปี คุณคงใช้เวลามากพอสมควรกับการเลือกบ้านหลังใหม่ให้ถูกใจคุณ แล้วถ้าบ้านที่คุณถูกใจทำให้คุณต้องตื่นมาตี 3 ทุกคืน และมีเรื่องราวบางอย่างที่คุณสัมผัสได้ แต่มองไม่เห็น คุณจะทำยังไง…
 
      กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ขอเชิญผู้อ่านสัมผัสประสบการณ์หลอนไปกับ คุณเต้–สุภามาศ ยุนยะสิทธิ์ นักการทูตชำนาญการ ที่ปรึกษากรมอาเซียน ซึ่งเคยออกประจำการที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมา ประเทศเปรู ดินแดนแห่งอารยธรรมเก่าแก่และอาณาจักรโบราณแห่งหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกในช่วงปี 2554 – 2558 
 
 
71940312_1330541883771598_4677994837394325504_n  
 

      ห้อง 1101 ชั้น 11

      พี่พักอยู่ในอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในย่านซาน อิสิโดร (San Isidro) ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยที่เงียบสงบและเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงลิมา ความปลอดภัยของย่านนี้ทำให้มีสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ตั้งอยู่รวมกันไม่น้อยกว่า 35 สถานทูต พี่ไม่เคยถามเจ้าของอพาร์ทเมนท์เกี่ยวกับประวัติที่นั่น เพราะพี่ชอบอพาร์ทเมนท์ ชั้น 11 ห้อง 1101 นี้มาก เพราะทั้งดูโปร่ง สบาย ห้องน้ำก็มีแสงแดดเข้าถึง ทุกอย่างดูดีไปหมด เจ้าของบ้านก็บอกว่าอยู่ดีมีความสุข แม้พี่จะเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับตัวเลขมาบ้างว่า เลข 1 อยู่ติดกัน หรือประกบหน้าท้ายจะเป็นเลขไม่ดี แต่พี่ก็ไม่ได้สนใจอะไร 

 

86CF341A-6ED6-4EFC-99A0-384ECE4CC3DA

 

68D7E9DC-0028-42CC-A562-58A1343DF907

 

      ตี 3 ช่วงเวลาของปีศาจ

      พี่สะดุ้งตื่นตอนตี 3 เกือบทุกคืน ตื่นมาแล้วก็ไปนอนต่อ พี่ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เวลาไปเล่าให้คนอื่นฟัง เขาจะค่อนข้างตกใจกัน เพราะหลายคนมีความเชื่อที่เล่าต่อ ๆ กันมาว่า ตี 3 เป็นเวลาของสิ่งชั่วร้าย ปีศาจ หรือสิ่งเหนือธรรมชาติต่าง ๆ  (witching hour / devil’s hour) เขาว่ากันว่าวิญญาณมักออกมาปรากฏในช่วงเวลานี้ และจะเป็นช่วงเวลาที่สิ่งเหนือธรรมชาติใช้สื่อสารกับมนุษย์

 

      เปรูไม่เชื่อเรื่องตัวเลข แต่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย

      ความจริงคนเปรูไม่ค่อยเชื่อเรื่องตัวเลข แต่มีความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยบ้าง เพราะได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะอิทธิพลจีน ซึ่งเข้ามาในเปรูตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 19 เนื่องจากตอนนั้นมีแรงงานชาวจีนอพยพเข้ามาอยู่ในเปรูมากมายเพื่อทำเหมืองแร่ และแรงงานชาวญี่ปุ่นในภาคการเกษตรที่อพยพมาจากเมืองหลัก ๆ ของญี่ปุ่น เช่น โอกินาวา โดยเข้ามาเนื่องจากการที่รัฐบาลได้ทำความตกลงระหว่างกัน

 

      เปรูเป็นประเทศแรกในทวีปลาตินอเมริกาที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับญี่ปุ่น การย้ายถิ่นเข้ามาของชาวเอเชียทำให้เกิดการหลอมรวมวัฒนธรรมของเอเชียกับเปรูหลายอย่าง ทั้งเรื่องความเชื่อและอาหารการกิน จนปัจจุบันประชากรกว่าร้อยละ 5 ของเปรู มีเชื้อสายเอเชีย ทั้งเชื้อสายจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งมักจะเป็นเจ้าของธุรกิจการค้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านอาหาร และถือเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการเมือง  จึงไม่น่าแปลกที่เราเคยได้ยินว่าเปรูมีประธานาธิบดีชื่อ นายอัลโบร์โต ฟูจิโมริ (Alberto Fujimori) แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่าปัจจุบัน คนเปรูเชื้อสายเอเชียเหล่านี้มักจะสามารถพูดได้แต่ ภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ โดยไม่ได้ฝึกฝนภาษาของบรรพบุรุษอีกแล้ว

 

      เตือนครั้งที่ 1: Be Careful!

      เหตุการณ์เริ่มแปลก ๆ ตั้งแต่ 3 วันแรกที่พี่ย้ายเข้าไป ตอนนั้นพี่ตื่นมาเวลาตีสามเหมือนเดิมแล้วได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง แต่ไม่ใช่ห้องนอนนะ เป็นอีกห้องที่อยู่ไกลออกไป เหมือนเคาะให้เราตื่นและตามมาด้วยเสียงสุนัขเห่า ทีนี้พี่ก็เลยออกมาดู แต่ไม่เห็นมีอะไร เลยกลับไปนอนต่อแต่ยังไม่ทันจะหลับดี ก็มีเสียงน้ำดังซู่ขึ้นมา ซึ่งเป็นเสียงน้ำจากท่อน้ำแตกในช่วงโถงทางเดิน กำลังจะท่วมบ้าน เหมือนมีใครตั้งอุณหภูมิท่อน้ำร้อนไว้สูงเกินจนน้ำร้อนลวกท่อน้ำเย็นแตก ทำให้น้ำท่วมห้อง และเกิดความเสียหายนิดหน่อย พี่รู้สึกว่าเหมือนคนที่มาเคาะประตูเขามาเรียกให้ตื่นก่อน ให้เราได้รู้ตัวทันว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะได้ไม่เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้

 

      ไข่ดิบ กับความเชื่อแบบอินคาโบราณ

      พี่จ้างพยาบาลเชื้อสายอินคาคนหนึ่งมาช่วยดูแลลูกพี่ตอนเล็ก ๆ เขามาจากเมืองอาเรกิปา (Arequipa) ลูกพี่ร้องไห้บ่อยในช่วงกลางคืน ซึ่งพยาบาลคนนี้บอกว่ามีบางอย่างรบกวนลูกพี่อยู่ เขาจึงเช็คตามความเชื่อของเขา โดยทุก ๆ วันก่อนกลับบ้านเขาจะนำไข่ดิบมาวนรอบตัวลูกพี่ แล้วตอกไข่ลงไปในน้ำเปล่า ถ้าไข่ที่ตอกลงไปในแก้วที่มีน้ำ มีลักษณะเป็นพู่ออกมาเหมือนดวงตา หมายความว่า มีคนจ้องเด็กอยู่ หรือมีสิ่งมารบกวนเด็ก ซึ่งไข่ที่วนรอบตัวลูกของพี่ก็ตอกออกมาแล้วเป็นรูปดวงตานั้นตลอด

 

1575863678691

 

      เตือนครั้งที่ 2:  Surprised I saw you!

      ทุกอย่างเริ่มชัดลูกพี่เริ่มโต เขาเริ่มเล่นได้ ก็จะมีของเล่นเยอะขึ้น ทีนี้จะมีตุ๊กตา Fisher Price ตัวหนึ่งที่พูดได้ พอเราไปแตะ ตุ๊กตาก็จะพูดเสียงที่อัดเรียงไว้ แต่ถ้าไม่แตะ ก็จะไม่มีเสียง คืนหนึ่งพี่ตื่นมา ตีสามเหมือนเดิม แล้วเดินไปห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม ซึ่งตอนนั้นตุ๊กตาตัวนั้นของลูกวางอยู่ตรงโซฟาที่อยู่อีกห้องที่สามารถเห็นได้จากห้องครัว จังหวะที่พี่กำลังจะดื่มน้ำ ตามองไปที่ตุ๊กตาตัวนั้นที่อยู่มุมห้องอีกฝั่ง อยู่ดี ๆ ตุ๊กตาตัวนั้นก็พูดขึ้นมาเป็นภาษาสเปนว่า “Sorpresa! te veo!” แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Surprised I saw you!” พี่ตกใจมาก แต่ก็รู้ว่าเป็นประโยคที่อัดไว้ในตัวตุ๊กตาอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องมาพูดในเวลานี้ พูดได้ยังไง แล้วใครไปแตะ พี่มั่นใจว่าไม่มีใครไปแตะแน่นอน หรือพี่ตัวหนักแล้วเดินสะเทือนไปถึงตุ๊กตาก็ไม่น่าใช่ เพราะตุ๊กตากับพี่อยู่กันคนละห้อง

 

71486874_1330541780438275_1017072475013382144_n

ตุ๊กตา Fisher Price

 

      ยังไม่ทันหายตกใจดี ก็มีเรื่องน่าตกใจกว่า เพราะกระเบื้องตรงฝาผนังห้องน้ำหล่นลงมาที่พื้น 3 แผ่น ซึ่งถ้าใครล้างหน้าอยู่ตรงนั้นแล้วโดนกระเบื้องตกลงมาใส่ต้องคอหักแน่ ๆ เพราะว่าหล่นลงมาแรงมากจริง ๆ พี่รู้สึกโชคดี ที่ไม่ได้เดินไปล้างหน้าตอนนั้น หลังจากนั้นก็ต้องมีการซ่อมแซมห้องน้ำกันไป ส่วนตุ๊กตาพี่ก็เอาถ่านออกเลย (หัวเราะ)

 

71705184_1330541910438262_1250979211452088320_n

 

72722200_1330541960438257_5600903203869687808_n

 

      ใครอยู่ในห้อง

      มีอยู่วันหนึ่งสามีพี่โพล่งถามขึ้นมาจากห้องทานข้าวว่า “พี่อยู่ไหน” พี่ตอบว่าพี่อยู่ในห้องเขียนหนังสืออีกห้อง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ จนเช้าอีกวันเขามาเล่าให้ฟังว่า เห็นผู้หญิงเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่ (master bedroom) เขาเลยถามขึ้นมา แต่ความจริงพี่ไม่ได้อยู่ แล้วที่เขาเห็น คือใครก็ไม่รู้

 

      น้องแองจี้: เด็กผู้หญิงที่มองไม่เห็น

      พอช่วงที่ลูกพี่โตจนเริ่มเล่นได้ตามประสาเด็กทั่วไป เขาก็ชอบเล่นเหมือนมีคนเล่นด้วยตลอดเวลา กระโดดโลดเต้น คุยกันเป็นจริงเป็นจัง พอถามว่าเล่นกับใคร เขาจะบอกว่า “เล่นกับเด็กผู้หญิง” “นี่ไง เด็กผู้หญิงตรงนี้ ชื่อ “แองจี้” และชอบบอกว่า “เด็กผู้หญิงมาแล้ว” “เด็กผู้หญิงไปแล้ว” พี่ก็หลอน ๆ นะ เริ่มกลัว พี่จึงเอาขนมไปวางที่หน้าบ้านเลยและอธิษฐานบอกน้องแองจี้ว่า เอาขนมมาให้นะ ช่วยดูแลบ้านกันนะ ตอนแรกสามีพี่ก็ไม่เชื่อ แต่หลัง ๆ เห็นแอบเอาขนมชุดใหญ่ไปวางไว้ให้เหมือนกัน (หัวเราะ)

 

      คำแนะนำจากหลากหลายวัฒนธรรม

      มีคำแนะนำที่หลากหลายเหมือนกันนะ อย่างพี่เลี้ยงเด็กชาวอินคาเขาก็บอกว่าให้เอาพระกุมารเยซูขนาดเล็ก ๆ มาไว้ในห้อง เพื่อให้มาช่วยดูแลและสื่อสารกับเด็ก เพื่อนตุรกีก็ให้เอาหินมีรูปตาตุรกีที่เป็นพระจันทร์เสี้ยวมาแขวนไว้ที่เปล เพื่อนคนไทยที่เป็นอาจารย์ซึ่งรู้จักกับผู้มีจิตสัมผัสก็บอกให้เอาขนมต่าง ๆ วางไว้ให้น้องแองจี้ และคอยบอกน้องแองจี้ว่ารู้สึกอย่างไร

 

      ร่องรอยความรู้สึกจากอารยธรรมโบราณ

      พี่ตัดสินใจหาคำตอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง เพราะเพื่อนพี่คนหนึ่งที่เป็นอาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาเดินทางมาเปรูเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเขียนบทความเรื่อง “อาณาจักรอินคาและอาณาจักรอยุธยา: ประวัติศาสตร์คู่ขนานในความทรงจำของเปรูและไทย” ซึ่งจะตีพิมพ์ลงในหนังสือฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เปรู ในปี 2558 เพื่อนคนนี้เขามีสัมผัสพิเศษ และเขามานอนที่อพาร์ทเมนท์พี่ เขาบอกว่าที่นี้มีอะไรแปลก ๆ เขานอนไม่ค่อยหลับ เขารู้สึกได้ เหมือนมีอะไรอยู่ที่นี่คล้ายกับเวลาไปมาชูปิกชู หรือเมืองกุซโก เขารู้สึกถึงพลังและเรื่องราวบางอย่างแรงมาก เช่น เรื่องพิธีกรรม เรื่องการบูชายัญ และกลิ่นอายอารยธรรมโบราณต่าง ๆ

 

      พี่มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเปรูเป็นดินแดนเก่าแก่ คงเหมือนเวลาเราไปเมืองเก่าที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และแถวบ้านพี่ก็มีพีระมิดอยู่ใกล้ ๆ เลย สามารถมองเห็นได้จากที่บ้าน ให้อารมณ์เหมือนมีเจดีย์สมัยอยุธยาอยู่รอบ ๆ โดยในพีระมิดเหล่านั้นจะมีมัมมี่ที่อยู่ในท่านั่ง (ไม่เหมือนกับที่อียิปต์) มีเรื่องราว การบูชายัญ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกครั้งที่สามีพี่เข็นลูกไปเดินเล่นแถวนั้น พอกลับมาบ้านตกกลางคืนลูกพี่มักจะร้องไห้งอแงตลอดเลย และได้ทราบว่าในกรุงลิมาที่เป็นเมืองหลวงในบริเวณเขตซานอิสิโดรที่พี่อยู่ก็เคยเป็นพื้นที่สุสาน มีพีระมิดมากมาย แต่รื้อถอนไปเหลือเพียงพีระมิดใหญ่ ๆ อยู่ไม่กี่แห่ง

 

1575862532170

พีระมิด Huaca Huallamarca ในเขต San Isidro กลางกรุงลิมา ประเทศเปรู

 

      คำตอบจากอดีต

      สุดท้ายพี่ได้คำตอบจากพี่เลี้ยงคนใหม่ที่พี่จ้างมาดูแลลูก คุณแม่ของเขาเคยทำงานกับเจ้าของบ้านพี่ เขาเลยไปถามคุณแม่เขาให้เกี่ยวกับประวัติบ้าน “บ้านนี้เคยมีคนตาย” ใช่ บ้านนี้เคยมีหญิงชราคนหนึ่ง อาศัยอยู่คนเดียว คุณยายคนนี้กำลังเอื้อมปีนหยิบแก้วในครัว แต่เอื้อมไม่ถึง จึงพลาดล้ม ศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต กว่าคนภายนอกจะรู้ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว 

 

      อ้าว รู้แล้วเหรอ

      พอพี่ไปบอกเพื่อนบ้านก็มีแต่คนพูดกลับมา “อ้าว รู้แล้วเหรอ” หรือ “เจอแล้วใช่ไหม” คือทุกคนบริเวณนั้นรู้หมด แต่ไม่มีใครบอกพี่เลย (หัวเราะ) เจ้าของบ้านเองก็เคยเจอผู้หญิงนอนอยู่บนเตียงเหมือนกัน เราก็เข้าใจเขานะ เขาก็อยากให้คนมาเช่า จะบอกความจริงก็ไม่ได้ แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า คุณยายเขาไม่ทำอะไร เขาแค่มาให้เห็นเฉย ๆ มาช่วยดูแลเรา จากนั้นพี่ก็เปลี่ยนห้องนอนใหญ่ของพี่ให้เป็นห้องนอนแขกไปโดยปริยาย

 

      คนทรงแบบฉบับเปรู

      หลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็ส่งคนทรงมาช่วยแก้ปัญหาให้ที่บ้าน คนทรงคนนี้เคยอยู่วาติกันมา 9 ปี เป็นผู้ชำนาญเรื่องจิตวิญญาณเหล่านี้มาก เขามากับผู้ช่วยอีกคนรวมเป็น 2 คน คนหนึ่งเดินแกว่งกำยาน ส่วนอีกคนหนึ่งสาดน้ำมนต์ตาม น้ำมนต์เขาจะใส่ขวดเหมือนขวดน้ำอบเล็ก ๆ โดยเริ่มเดินจากห้องข้างในสุดก่อน และปิดประตูทีละบานจนถึงประตูสุดท้าย คือ ประตูหน้าบ้าน ทุกครั้งที่เปิดประตูเขาจะผงะเหมือนเจออะไร เขาบอกพี่ว่ามีวิญญาณอยู่ที่นี่ประมาณ 4-5 ตน ทั้งวิญญาณโบราณ และวิญญาณเด็ก เหมือนเวลาเพื่อนพี่หรือคนรู้จักที่มาเยี่ยมเราที่เปรูแล้วได้เดินทางไปตามสถานที่โบราณต่าง ๆ แล้ววิญญาณในเปรูเหล่านี้ก็ตามมาอยู่ที่บ้านด้วย พอทำพิธีเสร็จ คนทรงก็ให้ทุกคนออกไปนอกบ้านประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกอย่างสงบและกลิ่นกำยานหายไป แล้วค่อยให้พวกเรากลับเข้ามา

 

72420273_1330541857104934_8069827667500728320_n

 

72188126_1330541823771604_9001108398409777152_n

 

      เมื่อสิ้นกลิ่นกำยาน

      หลังจากทำพิธีเสร็จวันนั้น พี่ก็ไม่ได้รู้สึกตัวตื่นตอนตีสามอีกเลย ลูกก็นอนหลับสบาย ไม่มีเรื่องอะไร น่าประหลาดใจ ยกเว้นเรื่องหนึ่ง คือหลังจากทำพิธีนั้นเสร็จไม่นาน คนทรงที่ประเทศไทยที่พี่เคยไปปรึกษา เขาได้มาบอกพี่ว่า น้องแองจี้เขาโกรธมากที่เราไล่เขาออกไป เขาอยู่ตรงนั้นของเขามาตั้งนาน ถึงจะไล่เขา เขาก็กลับไปได้อยู่ดี เพราะที่นั่นคือที่ของเขา  

 

      ผีประเทศไหน ก็ให้คนประเทศนั้นจัดการ

      พี่ไม่ได้เชื่อเรื่องพวกนี้มาก แต่ก็ไม่ลบหลู่ พี่เชื่อแค่ว่ามีมิติซ้อนทับกับเราอยู่ และแต่ละสถานที่ แต่ละความเชื่อก็ต่างกัน วิธีจัดการกับเรื่องทางความเชื่อจึงต่างกัน ถ้าเป็นผีไทยเราคงดีลได้ แต่ถ้าเป็นผีต่างชาติก็ขอผู้เชี่ยวชาญแต่ละชาติมาจัดการดีกว่า ขนาดเวลาจะเอาลูกเข้าบ้านพี่ก็บอกเจ้าที่เจ้าทางนะ ว่าขอเอาลูกเข้ามาอยู่นะ ขอโทษถ้ามีเสียงรบกวนบ้าง ขอให้ช่วยดูแล ๆ กันนะ พี่ว่าพี่ก็พูดสเปนแล้วนะ หรือเขาไม่เข้าใจก็ไมรู้ อาจจะต้องไปพูดภาษา Quechua ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติอีกภาษาของเปรู พี่คิดว่า ผีประเทศไหน ก็ให้คนประเทศนั้นดีล น่าจะดีที่สุด

 

      สิ่งที่เป็นวัฒนธรรมเปรูที่น่าสนใจและคล้ายกับไทยอย่างหนึ่งก็คือ ในบ้านโดยเฉพาะตามต่างจังหวัด จะวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับเครื่องรางเพื่อปกป้องคุ้มครองบุคคลในบ้าน คล้ายศาลพระภูมิ แค่สิ่งของศักดิ์สิทธิ์ของเปรูนี้เป็นไม้กางเขนขนาดย่อม พร้อมกระทิงดินเผา 2 ตัว โดยมีดอกไม้เครื่องบูชาต่าง ๆ ประดับไว้บนหลังคาบ้าน ชาวเปรูเชื่อว่าเครื่องรางสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะสามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้

 

torito-pucará-artesania-peruana

ไม้กางเขนและกระทิงดินเผา Torito de Pucará เครื่องรางคุ้มครองป้องกันตามความเชื่อของชาวเปรู

 

      แล้วยังกลัวอีกบ้างไหมในบ้านหลังเดิม

      พี่ก็มีกลัวบ้าง แต่จะกลัวมากไม่ได้ เพราะเป็นบ้านเราเอง และเค้าก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรเรา ยิ่งอยู่ต่างประเทศด้วย อะไร ๆ ก็คงไม่ได้ง่ายเหมือนอยู่ในไทย จะย้ายที่พักบ่อยคงไม่สะดวก ไหนจะครอบครัวที่เราต้องดูแลอีก ยังไงเราก็ต้องเข้มแข็งให้ถึงที่สุด และหาทางออกสำหรับปัญหาต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด การออกประจำการแต่ละครั้งใช่ว่าเราจะต้องรับมือกับการทำงานในที่ทำงานเพียงอย่างเดียว ปัญหาทางบ้าน หรือแม้แต่ความสบายใจของคนในครอบครัวก็เป็นเรื่องที่เราต้องดูแลรับมือด้วย อย่างไรก็ดี เปรูเป็นประเทศที่สวยงาม อาหารการกิน อุดมสมบูรณ์ และมีความร่วมมือกับไทยในหลายด้าน ชาวเปรูเห็นไทยเป็นต้นแบบในเรื่องต่าง ๆ ที่เปรูมีศักยภาพ เช่น การท่องเที่ยว การส่งเสริมอาหารและวัฒนธรรม ดังนั้น ประสบการณ์การออกประจำการของพี่ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิมา แม้จะมีเรื่องให้ตื่นเต้นบ้างก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจอย่างยิ่ง

* * * * * *

 

อ่านเพิ่มเติม

ข้อมูลรายประเทศเปรู https://aspa.mfa.go.th/th/country/PE?page=5e0ea3b47317c00ce15ab862&menu=5e0ea8d8740cc40d676ed912 

ข้อมูลสาระน่ารู้เกี่ยวกับเปรู https://aspa.mfa.go.th/th/content/109594-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B9?page=5d7f3b68be0b3b65cb2e120a&menu=5d7f371fc43fde3adc7171d3 

ข้อมูลความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เปรู https://aspa.mfa.go.th/th/content/77750-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B9?page=5e0dc1e53805f2240032d132&menu=5d82004ad083c20cf4603d6d 

เรื่อง: สุภามาศ ยุนยะสิทธิ์ , กัญญาภัค สาสงเคราะห์ (เรียบเรียง) , มิ่งเมือง วัฒนะศุกร์ (ปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหา)

ภาพ: สุภามาศ ยุนยะสิทธิ์