สาระน่ารู้เกี่ยวกับออสเตรเลีย

สาระน่ารู้เกี่ยวกับออสเตรเลีย

วันที่นำเข้าข้อมูล 25 ธ.ค. 2562

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 13,919 view

 

หน้าปกสาระน่ารู้ออสเตรเลีย

กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับประเทศออสเตรเลียให้มากขึ้น ด้วยสาระน่ารู้เกี่ยวกับประเทศออสเตรเลีย 11 ข้อ

 

 

ข้อ_1_ออสเตรเลีย

 

1) ประเทศออสเตรเลียมีพื้นที่ทั้งหมด 7,692,024 ตร.กม. นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยขนาดพื้นที่ประเทศใหญ่เกือบเท่าทวีปยุโรปทั้งหมด (ทวีปยุโรปมีพื้นที่ทั้งหมด 10,180,000 ตร.กม.) โดยความกว้างของประเทศมีระยะเท่ากับจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกกฤษ ถึงกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

 

ข้อ_2_ออสเตรเลีย

 

2) ธงชาติออสเตรเลียมีพื้นหลังสีน้ำเงิน มุมบนด้านซ้ายมีรูป Union Jack หรือธงชาติของ สหราชอาณาจักร แสดงถึงประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่ สหราชอาณาจักรส่งประชากรเดินทางมาตั้งถิ่นฐานที่ทวีปออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรทรงเป็นประมุขด้วยเช่นกัน


ใต้ธง Union Jack นี้มีดวงดาวสีขาวเจ็ดแฉก ชื่อว่า ดาวเครือรัฐ (Commonwealth Star) หมายถึง 6 เครือรัฐของออสเตรเลียและดินแดนของออสเตรเลียที่ได้รวมตัวกันเป็นประเทศ ทางด้านขวาของธงมีกลุ่มดาวที่แสดงถึงกลุ่มดาวกางเขนใต้ 5 ดวง (กลุ่มดาว Crux ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากซีกโลกใต้เท่านั้น)

 

ข้อ_3_ออสเตรเลีย

 

3) ออสเตรเลียเป็นประเทศร่วมก่อตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ. 1945 และมีบทบาทสำคัญในเวทีระหว่างประเทศโดยสนับสนุนการดำเนินภารกิจขององค์การสหประชาชาติมาโดยตลอด อาทิ การร่วมภารกิจเพื่อรักษาสันติภาพ การลดอาวุธ การปราบปรามยาเสพติดและการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศต่างๆ เป็นต้น

 

ข้อ_4_ออสเตรเลีย

 

4) ออสเตรเลียเป็นประเทศที่สองที่ประกาศให้สิทธิเลือกตั้งแก่สตรีในปี ค.ศ.1894 โดยประเทศแรกในโลกที่ประกาศให้สตรีมีสิทธิ์เลือกตั้งคือนิวซีแลนด์เมื่อปี ค.ศ.1893

 

ข้อ_5_ออสเตรเลีย

 

5) จิงโจ้เป็นสัตว์ท้องถิ่นประจำชาติของออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียมีจำนวนจิงโจ้มากถึง 50 ล้านตัว แต่ในขณะที่ประชากรมนุษย์มีจำนวนแค่ 25 ล้านคน ชาวออสเตรเลียเองนิยมบริโภคเนื้อจิงโจ้ด้วยเช่นกัน เนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีน และมีไขมันน้อยกว่าเนื้อวัว เนื้อจิงโจ้ของออสเตรเลียยังได้ถูกส่งออกไปมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก


http://www.agriculture.gov.au/about/commitment/portfolio-facts/kangaroo-meat

https://www.bbc.com/news/world-australia-41227521

 

ข้อ_6_ออสเตรเลีย

 

6) ประเทศออสเตรเลียมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีสัตว์หลากหลายสายพันธุ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งรวมถึงสัตว์มีพิษและสัตว์อันตราย ออสเตรเลียยังได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีสัตว์สายพันธุ์อันตรายมากที่สุดในโลกด้วย อาทิ งูไทปันโพ้นทะเล (Inland Taipan) งูบนบกที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก , แมงมุมใยกรวย (Australian Funnel-Web Spiders) หนึ่งในตระกูลแมงมุมที่มีพิษอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดในโลก และแมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish) แมงกะพรุนที่มีพิษเป็นอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดในโลก เป็นต้น

 

ข้อ_7_ออสเตรเลีย_1

 

7) อุตสาหกรรมการส่งออกอูฐกำลังเติบโตในออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียมีจำนวนอูฐอยู่ระหว่าง 700,000-1,000,000 ตัว ซึ่งมีการส่งออกอูฐกับเนื้ออูฐไปยังหมู่ประเทศตะวันออกกลางเพื่อนำไปประกอบอาหารอย่าง ประเทศซาอุดิอาระเบีย , กาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น


อูฐในออสเตรเลียยังเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้สำหรับการจัดการดินเพื่อควบคุมวัชพืชตามพื้นที่เพาะปลูกและปศุสัตว์ ของรัฐควีนส์แลนด์ด้วย

https://www.abc.net.au/news/rural/2017-05-02/outback-camels-flights-middle-east-exported-for-breeding/8485948

https://www.nintione.com.au/resources/rao/australian-camel-industry/

 

ข้อ_8_ออสเตรเลีย

 

8) ในออสเตรเลียมีชาที่ได้รับความนิยมที่ชื่อ ชาบิลลี่ (Billy Tea) ซึ่งชื่อบิลลี่มีที่มาจากหม้อโลหะขนาดเล็กบิลลี่ (Billycan) ที่ใช้ต้มน้ำ ต้มชาและทำอาหารของชาวออสเตรเลียในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยที่ในสมัยยุคบุกเบิกของออสเตรเลียชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ห่างไกล จะนิยมต้มชาในหม้อโลหะเล็กบิลลี่จึงเป็นที่มาของชื่อชาบิลลี่ ปัจจุบันชาบิลลี่ยังเป็นชายอดนิยมในออสเตรเลียและหม้อโลหะบิลลี่ยังได้รับความนิยมในการใช้ชงชาในเวลาเดินป่าอยู่ด้วย เช่นกัน

 

ข้อ_9_ออสเตรเลีย

 

9) เวจเจไมท์ (Vegemite) เป็นผลิตภัณฑ์ทาขนมปังที่มีสีน้ำตาลเข้มและเนื้อข้น มีรสชาติเค็มและขมในระดับหนึ่ง มักใช้ทาขนมปังและทานคู่กับ ซุปและสลัด เป็นต้น


เวจเจไมท์ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี ค.ศ.1922 โดยนักเคมีชาวออสเตรเลีย เซริล คาลลิสเตอร์ (Cyril Callister) โดยใช้สารสกัดยีสต์สกัดเวจเจไมท์ขึ้นมา การคิดค้นเวจเจไมท์มีสาเหตุมาจากการหาของทดแทนผลิตภัณฑ์ทาขนมปังมาร์ไมท์ (Marmite) ของอังกฤษที่ขาดแคลนในช่วงและหลังสงครามโลกครั้งที่ 1

 

ข้อ_10_ออสเตรเลีย

 

10) ในปี ค.ศ. 2018 ออสเตรเลียมีดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index) สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก จาก 189 ประเทศ โดยในด้านอายุขัยเฉลี่ยเมื่อแรกเกิดอยู่ที่ 83.1 ปี , ดัชนีปีได้รับการศึกษารวมอยู่ที่ 22.9 ปี และรายได้ประชาชาติต่อหัวอยู่ที่ 53,190 ดอลลาร์สหรัฐ


http://hdr.undp.org/en/countries/profiles/AUS

https://data.worldbank.org/indicator/NY.GNP.PCAP.CD?most_recent_value_desc=true

 

ข้อ_11_ออสเตรเลีย

 

11) ทะเลสาบฮิลเลียร์ (Lake Hillier) ตั้งอยู่ในเกาะมิดเดิล (Middle Island) ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะรีเชิร์ช (Recherche Archipelago) ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) เป็นทะเลสาบน้ำเค็มสีชมพูที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ซึ่งที่มาของสีชมพูนี้เกิดจากการสังเคราะห์แสงของตะไคร่น้ำสายพันธุ์ Dunaliella และแบคทีเรียสายพันธ์ Halobacteria


ในปัจจุบันเกาะของทะเลสาบฮิลเลียร์ถูกปิดให้เป็นสถานที่วิจัย การจะเข้าชมทะเลสาบสามารถชมได้จากทางอากาศผ่านการนั่งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์อย่างเดียว

 

********

 

มิ่งเมือง วัฒนะศุกร์

กลุ่มงานโครงการตามยุทธศาสตร์

กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้

ธันวาคม 2562