เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๓ นายอันเดรส อายามันด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศของชิลีในปัจจุบัน โดยมีประเด็นเร่งด่วนคือ การเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 และการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคดังกล่าวโดยเน้นการชักชวนการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์การต่างประเทศอื่น ๆ ที่ประสงค์ผลักดัน ได้แก่ (๑) การกระชับความสัมพันธ์กับบราซิล อินเดียและอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของชิลีในเรื่องนโยบายแสวงหาตลาดใหม่เพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ และจีน ในขณะที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์อันดีและถ่วงดุลอำนาจกับทั้งสองประเทศ (๒) ส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน (๓) กำหนดนโยบายระดับภูมิภาคที่ชัดเจน ซึ่งชิลีส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคลาตินอเมริกาโดยใช้ประโยชน์จากโครงการวางสาย fiber optic ใต้น้ำระหว่างภูมิภาคลาตินอเมริกาและเอเชียที่ชิลีเป็นผู้ริเริ่ม และ (๔) การมีบทบาทนำด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและการปกป้องรักษาทวีปแอนตาร์กติก 

นายอันเดรส อายามันด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชิลี // ที่มาของรูป : Diario El Día

      นอกจากนี้ รัฐบาลชิลียังให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาคมระหว่างประเทศต่อชิลีจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในเมื่อปลายปี ๒๕๖๒ ซึ่งส่งผลให้ชิลีต้องยกเลิกจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC และการประชุม COP25 โดยในถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๕ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๓ นายเซบาสเตียน ปิญเญรา ประธานาธิบดีชิลี ระบุว่า ชิลีพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดดตลอดระยะเวลา ๓๐ ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างสังคมที่เท่าเทียมได้ อย่างไรก็ดี รัฐบาลรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชนและออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนรวมทั้งจะจัดการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันที่ ๒๕ ตุลาคมนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีตามแนวทางประชาธิปไตย

ชิลีต้องยกเลิกจัดการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ประจำปี ๒๕๖๒ เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในเมื่อปลายปี ๒๕๖๒ // ที่มาของรูป : Reuters 

************************

ที่มาของรูปหน้าปก :  Diario El Día