การอภิปรายระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้งรอง ปธน. สหรัฐฯ (Vice Presidential Debate)

การอภิปรายระหว่างผู้สมัครรับเลือกตั้งรอง ปธน. สหรัฐฯ (Vice Presidential Debate)

วันที่นำเข้าข้อมูล 9 ต.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 1,689 view

      เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2563 (เวลา ปทท.) Commission on Presidential Debates ได้จัด Vice Presidential Debate ระหว่าง รอง ปธน. Mike Pence และ ส.ว. Kamala Harris ณ เมือง Salt Lake City รัฐยูทาห์ โดยประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยก อาทิ สถานการณ์โควิด-19 ปัญหา ศก. การแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงคนใหม่ และนโยบาย ตปท.

 

200812113809-mike-pence-kamala-harris-split-exlarge-169

รอง ปธน. Mike Pence และ ส.ว. Kamala Harris // ที่มาของรูป : CNN


      ภาพรวม ผู้สมัครทั้งสองคนได้นำเสนอสาระและตอบโต้ในประเด็นต่างๆ มากกว่า Presidential Debate ครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายมุ่งนำเสนอประเด็นจุดแข็งที่ตนต้องการสื่อเป็นหลักและหลีกเลี่ยงการตอบคาถามหลายข้อ อาทิ การเตรียมการหากผู้ที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ปธน. ไม่สามารถทาหน้าที่ได้ นอกจากนี้ ส.ว. Harris เลี่ยงตอบในเรื่องการเพิ่มจานวนผู้พิพากษาศาลสูงหากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ส่วนรอง ปธน. Pence ไม่ตอบคำถามสาเหตุที่สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากกว่า ปท. พัฒนาแล้วอื่น ๆ ประเด็นการออก กม. ห้ามการทำแท้ง รวมทั้งไม่รับปากว่าจะยอมรับผลการเลือกตั้ง


      โควิด-19 ส.ว. Harris กล่าวถึงความล้มเหลวของ รบ. ปธน. ทรัมป์ ในการรับมือกับโควิด-19 พร้อมทั้งกล่าวว่า ปธน. ทรัมป์ และรอง ปธน. Pence ทราบถึงความร้ายแรงของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 2563 แต่กลับนิ่งเฉยไม่แจ้งให้ ปชช. ทราบเพื่อเตรียมการป้องกันในทันที โดยอ้างว่าไม่ต้องการให้ ปชช. ตื่นตระหนก หากตนและอดีตรอง ปธน. ไบเดน ได้เป็น รบ. จะดำเนินการอย่างเป็นแบบแผน ติดตามเส้นทางการแพร่ระบาด จัดบริการตรวจหาเชื้อและวัคซีนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ รอง ปธน. Pence ตอบโต้ว่า ปธน. ทรัมป์ มิได้นิ่งนอนใจและได้มีคาสั่งระงับการเดินทางจากจีนเข้าสหรัฐฯ ในทันที ซึ่งทาให้สามารถช่วยชีวิตชาวอเมริกันนับแสนคนและได้แจกจ่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้บุคลากร สธ.อย่างทั่วถึง พร้อมทั้งย้ำว่าการพัฒนาวัคซีนจะสำเร็จภายในปีนี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่ากล่าวเกินจริง

 

      ประเด็น ศก. และภาษี ผู้สมัครทั้งสองคนมีความเห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย ส.ว. Harris กล่าวว่า ปธน. ทรัมป์เอื้อประโยชน์ให้คนรวย ทาให้สหรัฐฯ ขาดดุล งปม. กว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่อดีต รอง ปธน. ไบเดนจะฟื้นฟู ศก. สหรัฐฯ ด้วยการช่วยเหลือชนชั้นแรงงานและเพิ่มภาษีกลุ่มผู้มีรายได้สูง รวมทั้งจะลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด และการศึกษา รวมถึงการให้เรียนฟรีและลดหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงความไม่โปร่งใสของ ปธน. ทรัมป์ เรื่องการเสียภาษี โดยรอง ปธน. Pence ได้ตอบโต้ว่า ปธน. ทรัมป์จ่ายภาษีหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งภาษีเงินได้และภาษีอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งลดภาษีให้ชาวอเมริกันทุกคน ลดกฎระเบียบ สนับสนุนธุรกิจพลังงานสหรัฐฯ อีกทั้งยังได้ผลักดันระบบการค้า รปท. ที่เป็นธรรม


      การเข้าถึงระบบ สธ. ส.ว. Harris กล่าวว่า ปธน. ทรัมป์ ต้องการทาลาย Affordable Care Act ซึ่งจะทาให้ ปชช. กว่า 20 ล้านคนไม่สามารถเข้าถึงระบบประกันสุขภาพ ในขณะที่ รอง ปธน. Pence กล่าวว่า Affordable Care Act คือหายนะของระบบ สธ. แต่ยังคงมิได้นาเสนอแผนทางเลือกด้าน สธ. ซึ่งทาให้ประเด็นดังกล่าวเป็นจุดอ่อนในการหาเสียง


      ประเด็น ตปท. ส.ว. Harris กล่าวว่า สงครามการค้าสหรัฐฯ – จีน คือความพ่ายแพ้ของสหรัฐฯ ในขณะที่ อดีตรอง ปธน. ไบเดน จะรักษา คสพ.กับพันธมิตร และเฝ้าระวังผู้ที่วางตัวเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐฯ ซึ่งต่างจาก ปธน. ทรัมป์ที่สนับสนุนผู้นาเผด็จการ ทั้งนี้ รอง ปธน. Pence ตอบโต้ว่า ปธน. ทรัมป์ ประสบความสาเร็จในการกวาดล้าง ISIS อย่างไรก็ดี สื่อต่าง ๆ วิเคราะห์ว่านโยบายของ รบ. ปธน. ทรัมป์ ต่อ ISIS มิได้แตกต่างจาก ปธน. โอบามา


      นักวิเคราะห์มองว่า สถานการณ์ปัจจุบันทาให้ ส.ว. Harris สามารถโจมตีรอง ปธน. Pence ได้มากกว่าและสามารถนาเสนอว่าอดีตรอง ปธน. ไบเดนจะสามารถเป็นผู้สร้างความสมานฉันท์ทางการเมืองสหรัฐฯ ได้ อย่างไรก็ดี รอง ปธน. Pence สามารถทาได้ดีกว่าในการสอบถาม ส.ว. Harris ในประเด็นการสนับสนุนนโยบาย Green New Deal และการทาลายอุตสาหกรรมพลังงานถ่านหินของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ผลการสารวจของ CNN ภายหลังการ debate ระบุว่าผู้รับชมร้อยละ 59 เห็นว่า ส.ว. Harris ทำได้ดีกว่า และร้อยละ 38 เห็นว่ารอง ปธน. Pence ทาได้ดีกว่า ทั้งนี้ ผลการสารวจคะแนนนิยมเฉลี่ย (สถานะวันที่ 6 ต.ค. 2563) ระบุว่า อดีตรอง ปธน. ไบเดนมีคะแนนนา ปธน. ทรัมป์ ร้อยละ 54.7 ต่อ 42.2 ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนที่ ปธน. ทรัมป์ จะตรวจพบเชื้อโควิด-19 เล็กน้อย

 

      Vice Presidential Debate จัดขึ้นครั้งนี้เพียงครั้งเดียว โดย Presidential Debate ครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในวันที่ 15 ต.ค. 2563 ตามกาหนดการเดิม โดยจะจัดในรูปแบบ virtual เนื่องจาก ปธน. ทรัมป์ ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ดี ปธน. ทรัมป์ ได้ปฏิเสธการเข้าร่วม virtual debate ดังกล่าว ในขณะที่อดีต รอง ปธน. ไบเดน ตอบตกลงเข้าร่วมแล้ว

 

********************

 

ที่มาของรูปหน้าปก : Eric Baradat/AFP via Getty Images

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ

เอกสารประกอบ

20201009092647177750.pdf